อำเภอลี้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเก่าแก่ โดยได้ก่อตั้งเมือง
มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ก่อนปี พ.ศ. 1800 มีพระนางจามะรี เป็นราชธิดาของ
เจ้าเมืองหลวงพระบาง เป็นหัวหน้าในการอพยพผู้คนหลบหนีลี้ภัยข้าศึก
และโรคระบาดเป็นหัวหนา้ ในการอพยพผู้คนหลบหนีลี้ภัยข้าศึก
และโรคระบาดจากเมืองหลวงพระบางลงมายัง
ทางทิศใต้สู่แคว้นล้านนาได้สร้างเมือง ณ บริเวณวัดพระธาตุดวงเดียว เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศเหมาะสม
มีสายน้ำ 3 สายมาบรรจบกัน ปัจจุบันเรียกว่า “แม่ลี้” “แม่แต๊ะ” และ “แม่ไป”
จึงตั้งชื่อเมืองว่า เมืองลี้เมืองลี้เจริญรุ่งเรืองตลอดมาจวบจนทางกรุงสุโขทัย
ได้ยกทัพมาตี โดยกวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สินไปยังกรุงสุโขทัย
เมืองลี้จึงกลายเป็นเมืองร้าง
ต่อมามีผู้คนอพยพมาจากเมืองเชียงใหม่ ลำพูน เถิน และตาก เข้ามา
ตั้งหลักแหล่งอยู่อาศัยจนถึงกลางสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
เจ้าเมืองลำพูนหรือนครหริภุญไชยได้แต่งตั้ง
เจ้าเมืองมาปกครองและตั้งเป็นเมืองลี้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และในปี พ.ศ. 2454
ได้เปลี่ยนแปลงฐานะเป็น อำเภอเมืองลี้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2460 จึงเปลี่ยนชื่อ
เป็น อำเภอลี้ โดยตั้งแต่ได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอจนถึงปัจจุบัน
รวมเป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้ว
บริเวณที่สร้างเมืองลี้ในอดีตปัจจุบันยังคงปรากฏหลักฐานซากกำแพงเมือง
ให้เห็นบริเวณวัดพระธาตุดวงเดียว วัดพระธาตุห้าดวง วัดพระธาตุแท่นคำ
วัดลี้หลวง วัดโปงกาง (ปัจจุบันวัดนี้เป็นวัดร้าง) ซึ่งวัดดังกล่าว
ตั้งอยู่บริเวณ 2 ข้างทางถนนลำพูน-ลี้ ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 6
และหมู่ที่ 15 ตำบลลี้